สกู๊ป : 100 ปี แห่งการสถาปนา “ยุวกาชาดไทย”
📣สกู๊ป : 100 ปี แห่งการสถาปนา “ยุวกาชาดไทย”
เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565 สำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย จัดงานเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาส 100 ปี แห่งการสถาปนา “ยุวกาชาดไทย” ในรูปแบบออนไลน์ โดยมี นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธาน พร้อมด้วย นายแพทย์พินิจ กุลละวณิชย์ ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย นางสุนันทา ศรอนุสิน ผู้อำนวยสำนักงานยุวกาชาด และรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานอาสากาชาด และเจ้าหน้าที่สภากาชาดไทย ร่วมในพิธี ณ ห้องประชุมศิริ สิริโยธิน ชั้น 4 อาคารเฉลิม บูรณะนนท์ สภากาชาดไทย อีกทั้งมีการถ่ายทอดสดบรรยากาศภายในงานผ่านเฟซบุ๊กเพจของสภากาชาดไทย ได้แก่ เพจ : The Thai Red Cross Society เพจ : อาสายุวกาชาด สภากาชาดไทย และเพจ : สำนักงานอาสากาชาด สภากาชาดไทย เพื่อเพิ่มช่องทางการสื่อสาร อีกทั้ง ในโอกาสพิเศษนี้ ได้เปิดให้อาสายุวกาชาด สมาชิกยุวกาชาด และประชาชนทั่วประเทศ ที่รับชมการถ่ายทอดสด ได้ลงทะเบียนรับเกียรติบัตรออนไลน์ “ความทรงจำแห่งศตวรรษ 100 ปี ยุวกาชาดไทย” เป็นที่ระลึกอีกด้วย
สำหรับโครงการและกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาส “100 ปี ยุวกาชาดไทย” อาทิ โครงการล้านต้นบนแผ่นดิน สืบสาน รักษา ต่อยอด 99 สู่ 100 ปี ยุวกาชาดไทย, โครงการป่าที่ภักดี, สร้างสรรค์สารคดีเชิงประวัติศาสตร์ 100 ปี ยุวกาชาด เรื่อง “หน่อศานติ”, สร้างสรรค์ผลงานเพลง “พลังอาสายุวกาชาด” ขับร้องโดย ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม, โครงการธรรมะสู่ดวงใจ ยุวกาชาดไทย 100 ปี และกิจกรรมรณรงค์บริจาคโลหิตในช่วงวิกฤตโลหิตขาดแคลน เนื่องจากสถานการณ์โรคโควิด-19 เป็นต้น
นางสุนันทา ศรอนุสิน ผู้อำนวยการสำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย และรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานอาสากาชาด สภากาชาดไทย กล่าวถึงความเป็นมาของยุวกาชาดไทย ว่า “กิจการยุวกาชาด เกิดจากมติที่ประชุมสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ เมื่อปีพ.ศ. 2462 โดยที่ประชุมเสนอว่า สภากาชาดทุกชาติควรจัดตั้งกาชาดสำหรับเด็ก ซึ่งในขณะนั้น สมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ดำรงตำแหน่งอุปนายกสภากาชาดสยาม ทรงเป็นผู้เข้าร่วมประชุมนั้นด้วย ภายหลังจึงทรงก่อตั้งกิจการยุวกาชาดขึ้น เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2465 โดยเมื่อแรกก่อตั้งนั้นใช้ชื่อว่า “อนุสภากาชาดสยาม” โดยมีวัตถุประสงค์ให้เด็กเป็นคนดี รู้จักรักษาสุขภาพอนามัย มีใจเมตตากรุณาต่อผู้อื่น และรู้จักการบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น โดยในช่วงแรกของการก่อตั้งนั้น กิจการยุวกาชาดขึ้นกับกรมพลศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยกระทรวงศึกษาธิการและสภากาชาดไทยได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลรับผิดชอบร่วมกัน ต่อมา ในปีพ.ศ. 2546 รัฐบาลได้มีการปฏิรูประบบราชการ และมีการปรับโครงสร้างของกระทรวง ทบวง กรม มีการยุบกรมพลศึกษาเข้ากับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยุวกาชาดในส่วนของสภากาชาดไทย ได้กลับมาที่สภากาชาดไทย ชื่อว่า สำนักงานยุวกาชาด ยุวกาชาดในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ได้กลับไปที่กระทรวงศึกษาธิการ ชื่อว่า สำนักการลูกเสือ ยุวกาชาด และกิจการนักเรียน
โดยปัจจุบันกิจการยุวกาชาดไทย ได้แบ่งความรับผิดชอบออกเป็น 2 ส่วน คือ กระทรวงศึกษาธิการและสภากาชาดไทย โดยแบ่งความรับผิดชอบอย่างชัดเจน กล่าวคือ ยุวกาชาดที่มีอายุ 7-18 ปี เรียกว่า “สมาชิกยุวกาชาด” ให้สำนักการลูกเสือ ยุวกาชาด และกิจการนักเรียน กระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้ดูแล ส่วนยุวกาชาดที่มีอายุ 15-30 ปี เรียกว่า “อาสายุวกาชาด” ให้สำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย เป็นผู้ดูแล โดยทั้ง 2 หน่วยงาน ได้มีการประสานงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดตลอดมา”
ภารกิจของสมาชิกยุวกาชาดและอาสายุวกาชาด คือการมุ่งหวังให้เด็กและเยาวชนเป็นคนดี รู้จักรักษาอนามัยตนเองและผู้อื่น มีจิตใจเมตตากรุณา ไม่เลือกชาติ ศาสนา มีความเสียสละ บำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน มีจิตอาสา พึ่งพาได้ มีคุณธรรม และเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติในอนาคต
ขอเชิญผู้สนใจร่วมเป็นพลังอาสายุวกาชาดร่วมกับสำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย เพียงโหลดแอปพลิเคชัน “อาสาสมัครกาชาด” สอบถามเพิ่มเติมที่เฟซบุ๊กเพจ : อาสายุวกาชาด สภากาชาดไทย โทรศัพท์ 0 2252 5002-3 กด 1 หรือ 1664
*********************************

image รูปภาพ
image
image
image
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar